เรียน ท่านผู้ถือหุ้น
นับจากที่สถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ได้ลดความรุนแรงจนกระทั่งประเทศไทยได้เริ่มมีการเปิดประเทศตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นมา สภาพเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มโดยรวมที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีนักลงทุนจากต่างประเทศสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแรงสนับสนุนจากภาครัฐ ในการพัฒนาโครงการในนิคมอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ธุรกิจประเภทโรงงานและคลังสินค้าที่อยู่ในเขตจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ภายในประเทศ และรายใหม่จากต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย โดยธุรกิจที่มีแนวโน้มจะขยายฐานเข้ามาในประเทศไทยส่วนหนึ่งได้แก่อุตสาหกรรมประเภทกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้นอกจากจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศแล้ว ยังนำมาซึ่งนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าทุกประเทศประสบปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติจนเกิดการรณรงค์เพื่อจัดการสิ่งแวดล้อม (EMS: Environment Management System) ซึ่งนักลงทุนจากต่างชาติได้ให้ความสำคัญและถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเข้ามาลงทุน บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการประกอบธุรกิจประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะต้องวางระบบต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นสำคัญไม่ว่าการบริหารจัดการปริมาณน้ำให้พอเพียง การกำจัดน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐานก่อนระบายออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ การป้องกันมลพิษอันเกิดจากระบบการผลิต ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนต้องศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจเข้ามาประกอบธุรกิจภายในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท และบริษัทเองก็มีความมุ่งมั่นในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้การอยู่ร่วมกันระหว่างธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมกับชุมชนเป็นไปด้วยความราบรื่น
บริษัทขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่สนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจมาได้ด้วยดี คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนตะหนักในหน้าที่ที่จะนำพาบริษัทให้ไปสู่ความสำเร็จและก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงตามที่ได้รับความไว้วางใจจากทุกท่านตลอดมา